วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Lecture 2 : 16/11/2010

Information System

ตัวอย่างบริษัทที่นำระบบสารสนเทศมาใช้ในการทำธุรกิจ
MARY KAY   คือบริษัทขายเครื่องสำอาง ซึ่งมีการใช้ social media เพื่อสร้าง relationship กับลูกค้า  เป็นธุรกิจที่ใช้ระบบสารสนเทศตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เช่น ใช้มือถือในการเช็คสต็อค  ระบบการสั่งออนไลน์

ระบบสารสนเทศคืออะไร?
ข้อมูล (data) คือ ข้อมูลทั่วไป
สารสนเทศ (information) คือ ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลแล้ว  มีความสำคัญในการช่วย business process ให้ทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้น
องค์ความรู้ (Knowledge) คือ สารสนเทศที่สามารถนำไปใช้ในการแก้ปัญหา หรือตัดสินใจทางธุรกิจได้
Data  -->  Information  -->  Knowledge 

ชนิดของสารสนเทศ
1.     Personal and Productivity System  :  ระบบที่ช่วยทำงานในแต่ละตัวบุคคล เช่น โทรศัพท์มือถือ    บีบี
2.     Transaction Processing System  :  ระบบที่คอยดูแล transaction ทั้งหมด เช่น ร้านสะดวกซื้อ,     โลตัส เกิด transaction แล้วนำมาประมวลภายหลัง
3.     Functional and Management Information System :  ระบบที่คอยรองรับหน่วยงานต่างๆ     เช่น พวก bank
4.     Enterprise Information system (ERP)  :  ระบบที่สามารถลิงค์ไปทุกหน่วยงานในองค์กรได้      และสามารถลิงค์ไปยังลูกค้า หรือ supplier ได้
5.     Inter-organization System (IOS) : ระบบสารสนเทศที่เชื่อมต่อหน่วยงานหลายๆหน่วยไว้ด้วยกัน    เช่น การติดต่อกับสาขาต่างประเทศ
6.     Global Information System   :  เป็นระบบสามารติดต่อกันได้ทั่วโลก
7.     Very Large and Special System : สามารถใช้เชื่อมต่อกับองค์กรต่าง ๆ ได้ทั่วโลก เช่น ระบบจองตั๋วเครื่องบิน


ประเภทของสารสนเทศในเชิงธุรกิจ
1.    Transaction Processing System  :  TPS
           มีในทุกองค์กร  เช่น ระบบ shipping , payroll  ระบบนี้มีความสำคัญที่สุดต่อองค์กรก็ว่าได้ ถ้าไม่มีระบบนี้อาจทำให้ธุรกิจเจ๊งได้   โดยระบบนี้จะมีฐานข้อมูลเก็บข้อมูลไว้เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาประมวลในภายหลังได้อีก 
2.    Management Information System  : MIS
           ผู้บริหารระดับกลางเอามาใช้  ช่วยในการตัดสินใจ  เช่น เอายอดขายแต่ละสาขามาเปรียบเทียบกัน ,   เปรียบเทียบยอดขายจริงกับยอดขาดที่ forecast 
3.    Decision Support System : DSS 
           ระบบที่ช่วยในการตัดสินใจ  ซึ่งช่วยพนักงานในการตัดสินใจได้  เช่น ปีหน้าจะเพิ่มยอดขาย/ลงทุนเท่าไร  โดยที่ระบบนี้จะเอาข้อมูลภายนอก/ระบบสถิติมาใช้ด้วย  บริษัทที่ใช้ระบบนี้ เช่น ปตท. , การบินไทย  เป็นต้น
4.    Group Decision Support System : GDSS 
           คือการตัดสินใจเป็นกลุ่ม  ซึ่งหากมีสารสนเทศพร้อม  การประชุม/การตัดสินใจจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น   เป็นการลดความขัดแย้งต่างๆ ได้
5.    Executive Support System : ESS  
           เป็นระบบที่เอาไว้ support  ผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น  ระบบนี้ต่อยอดมาจาก MIS อีกที  แต่มีการใช้ข้อมูลจากภายนอกด้วย  นอกจากนี้ยังมีกราฟ, dashboard    ซึ่งระบบนี้มีไว้เพื่อให้ผู้บริหารคิดกลยุทธ์ที่จะใช้ในธุรกิจ

ความสัมพันธ์ระหว่างระบบสารสนเทศ
ระบบสารสนเทศในองค์กรต่างๆจะเริ่มที่ Transaction Processing System  ถ้าส่วนนี้เกิดผิดพลาด ส่วนอื่นก็จะผิดพลาดตามไปด้วย  ดังนั้น จึงถือได้ว่า TPS เป็นหัวใจของระบบทั้งหมด  ซึ่ง Information System นั้น ทำหน้าที่ทางด้านแนวนอน  คือคอย support แผนกอื่นๆ ในองค์กร


ระบบสารสนเทศอื่นๆ
• Supply Chain Management System   การบริหารความสัมพันธ์ระหว่าง supplier ของบริษัท 
• Customer Relationship Management  (CRM) คือ การพยายามสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า  เช่น  AIS ที่มี serenade ซึ่งลูกค้าจะได้รับการบริการที่ดีกว่า  รวดเร็วกว่า 
Cloud computing คือ การเอาระบบสารสนเทศต่างๆไปไว้ออนไลน์  Software as a service   
ข้อดี ของการที่ระบบ software  อยู่บนอินเตอร์เน็ต ก็คือ เราอยากใช้เท่าไหร่ ซื้อแค่ไหนก็ได้ตามที่ต้องการ  แต่ถ้าเราสร้างเองหรือซื้อมาจะมีราคาแพง
ข้อเสีย  ข้อมูลบางอย่างเป็นความลับ  เช่น  ข้อมูลทางด้านบัญชี  การเงิน
Knowledge Management System   เก็บองค์ความรู้ต่างๆ ไว้ในองค์กร เพื่อนำความรู้เดิมมาแตกยอดหรือมาแชร์กันได้ เพราะส่วนใหญ่ความรู้อยู่ในตัวบุคคล  ซึ่งในอนาคตพนักงานก็อาจออกจากองค์กรไป ทำให้องค์กรต้องจ้างพนักงานใหม่ ซึ่งเสียเวลาในการหาองค์ความรู้ใหม่ๆ อีก  องค์กรจึงต้องมีระบบที่รวบรวมและจัดการองค์ความรู้ไว้  โดยองค์ความรู้มี 2 ประเภท  คือ  ความรู้ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge)  และ ความรู้ไม่ชัดแจ้ง/ความรู้ฝังลึก (Tacit Knowledge)  ซึ่งเป็นความรู้ที่ไม่สามารถอธิบายได้  ฝังลึกอยู่ในตัวบุคคล  องค์กรต้องพยายามเก็บความรู้ชัดแจ้งจากคนในองค์กรให้ได้มากที่สุด  และต้องพยายามดึงความรู้ไม่ชัดแจ้งออกมาเก็บให้มากที่สุดด้วย

Intranet  คือ การใช้อินเตอร์เน็ตในองค์กรเฉพาะในองค์กรของตนเอง
Internet เป็นการเชื่อมกันทั่วโลก  จึงไม่ปลอดภัย เพราะแชร์ข้อมูลกันทั่วโลก
Extranet  คือ Network ที่องค์กรใช้ติดต่อกับองค์กรอื่น  เป็นอินเตอร์เน็ตระหว่างองค์กร 
E-commerce คือ การขายออนไลน์กับบุคคลทั่วไป , องค์กรขายของระหว่างลูกค้า
E-government  เช่น  จ่ายภาษีออนไลน์  การทำพาสปอร์ต การประมูลป้ายทะเบียนทางเว็บไซต์
Information System Department   เป็นหน่วยงานระบบสารสนเทศที่สนับสนุนหน่วยงานต่างๆในองค์กร  ไม่ได้เป็นแค่ศูนย์คอมพิวเตอร์อย่างที่หลายคนเข้าใจ
Web 2.0  คือ WWW version 2   ซึ่งเป็นยุคใหม่ของ world wide web  คือ user ไม่ได้บริโภคอย่างเดียว  แต่เราสามารเขียน และสร้างเองได้ด้วย 
Virtualization  เทคโนโลยีเสมือน  เอา server ทุกตัวมาอยู่ใน server เดียวกัน เพื่อเพิ่มความเสถียร และลดต้นทุน

1 ความคิดเห็น: