ตัวอย่างบริษัทที่นำระบบสารสนเทศมาใช้ในการทำธุรกิจ
MARY KAY คือบริษัทขายเครื่องสำอาง ซึ่งมีการใช้ social media เพื่อสร้าง relationship กับลูกค้า เป็นธุรกิจที่ใช้ระบบสารสนเทศตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เช่น ใช้มือถือในการเช็คสต็อค ระบบการสั่งออนไลน์
ระบบสารสนเทศคืออะไร?
ข้อมูล (data) คือ ข้อมูลทั่วไป
สารสนเทศ (information) คือ ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลแล้ว มีความสำคัญในการช่วย business process ให้ทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้น
องค์ความรู้ (Knowledge) คือ สารสนเทศที่สามารถนำไปใช้ในการแก้ปัญหา หรือตัดสินใจทางธุรกิจได้
Data --> Information --> Knowledge
ชนิดของสารสนเทศ
1. Personal and Productivity System : ระบบที่ช่วยทำงานในแต่ละตัวบุคคล เช่น โทรศัพท์มือถือ บีบี
2. Transaction Processing System : ระบบที่คอยดูแล transaction ทั้งหมด เช่น ร้านสะดวกซื้อ, โลตัส เกิด transaction แล้วนำมาประมวลภายหลัง
3. Functional and Management Information System : ระบบที่คอยรองรับหน่วยงานต่างๆ เช่น พวก bank
4. Enterprise Information system (ERP) : ระบบที่สามารถลิงค์ไปทุกหน่วยงานในองค์กรได้ และสามารถลิงค์ไปยังลูกค้า หรือ supplier ได้
5. Inter-organization System (IOS) : ระบบสารสนเทศที่เชื่อมต่อหน่วยงานหลายๆหน่วยไว้ด้วยกัน เช่น การติดต่อกับสาขาต่างประเทศ
6. Global Information System : เป็นระบบสามารติดต่อกันได้ทั่วโลก
7. Very Large and Special System : สามารถใช้เชื่อมต่อกับองค์กรต่าง ๆ ได้ทั่วโลก เช่น ระบบจองตั๋วเครื่องบิน
ประเภทของสารสนเทศในเชิงธุรกิจ
1. Transaction Processing System : TPS
มีในทุกองค์กร เช่น ระบบ shipping , payroll ระบบนี้มีความสำคัญที่สุดต่อองค์กรก็ว่าได้ ถ้าไม่มีระบบนี้อาจทำให้ธุรกิจเจ๊งได้ โดยระบบนี้จะมีฐานข้อมูลเก็บข้อมูลไว้เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาประมวลในภายหลังได้อีก
2. Management Information System : MIS
ผู้บริหารระดับกลางเอามาใช้ ช่วยในการตัดสินใจ เช่น เอายอดขายแต่ละสาขามาเปรียบเทียบกัน , เปรียบเทียบยอดขายจริงกับยอดขาดที่ forecast
3. Decision Support System : DSS
ระบบที่ช่วยในการตัดสินใจ ซึ่งช่วยพนักงานในการตัดสินใจได้ เช่น ปีหน้าจะเพิ่มยอดขาย/ลงทุนเท่าไร โดยที่ระบบนี้จะเอาข้อมูลภายนอก/ระบบสถิติมาใช้ด้วย บริษัทที่ใช้ระบบนี้ เช่น ปตท. , การบินไทย เป็นต้น
4. Group Decision Support System : GDSS
คือการตัดสินใจเป็นกลุ่ม ซึ่งหากมีสารสนเทศพร้อม การประชุม/การตัดสินใจจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นการลดความขัดแย้งต่างๆ ได้
5. Executive Support System : ESS
เป็นระบบที่เอาไว้ support ผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น ระบบนี้ต่อยอดมาจาก MIS อีกที แต่มีการใช้ข้อมูลจากภายนอกด้วย นอกจากนี้ยังมีกราฟ, dashboard ซึ่งระบบนี้มีไว้เพื่อให้ผู้บริหารคิดกลยุทธ์ที่จะใช้ในธุรกิจ
ความสัมพันธ์ระหว่างระบบสารสนเทศ
ระบบสารสนเทศในองค์กรต่างๆจะเริ่มที่ Transaction Processing System ถ้าส่วนนี้เกิดผิดพลาด ส่วนอื่นก็จะผิดพลาดตามไปด้วย ดังนั้น จึงถือได้ว่า TPS เป็นหัวใจของระบบทั้งหมด ซึ่ง Information System นั้น ทำหน้าที่ทางด้านแนวนอน คือคอย support แผนกอื่นๆ ในองค์กร
ระบบสารสนเทศอื่นๆ
• Supply Chain Management System การบริหารความสัมพันธ์ระหว่าง supplier ของบริษัท
• Customer Relationship Management (CRM) คือ การพยายามสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น AIS ที่มี serenade ซึ่งลูกค้าจะได้รับการบริการที่ดีกว่า รวดเร็วกว่า
• Cloud computing คือ การเอาระบบสารสนเทศต่างๆไปไว้ออนไลน์ Software as a service
ข้อดี ของการที่ระบบ software อยู่บนอินเตอร์เน็ต ก็คือ เราอยากใช้เท่าไหร่ ซื้อแค่ไหนก็ได้ตามที่ต้องการ แต่ถ้าเราสร้างเองหรือซื้อมาจะมีราคาแพง
ข้อเสีย ข้อมูลบางอย่างเป็นความลับ เช่น ข้อมูลทางด้านบัญชี การเงิน
• Knowledge Management System เก็บองค์ความรู้ต่างๆ ไว้ในองค์กร เพื่อนำความรู้เดิมมาแตกยอดหรือมาแชร์กันได้ เพราะส่วนใหญ่ความรู้อยู่ในตัวบุคคล ซึ่งในอนาคตพนักงานก็อาจออกจากองค์กรไป ทำให้องค์กรต้องจ้างพนักงานใหม่ ซึ่งเสียเวลาในการหาองค์ความรู้ใหม่ๆ อีก องค์กรจึงต้องมีระบบที่รวบรวมและจัดการองค์ความรู้ไว้ โดยองค์ความรู้มี 2 ประเภท คือ ความรู้ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) และ ความรู้ไม่ชัดแจ้ง/ความรู้ฝังลึก (Tacit Knowledge) ซึ่งเป็นความรู้ที่ไม่สามารถอธิบายได้ ฝังลึกอยู่ในตัวบุคคล องค์กรต้องพยายามเก็บความรู้ชัดแจ้งจากคนในองค์กรให้ได้มากที่สุด และต้องพยายามดึงความรู้ไม่ชัดแจ้งออกมาเก็บให้มากที่สุดด้วย
• Intranet คือ การใช้อินเตอร์เน็ตในองค์กรเฉพาะในองค์กรของตนเอง
• Internet เป็นการเชื่อมกันทั่วโลก จึงไม่ปลอดภัย เพราะแชร์ข้อมูลกันทั่วโลก
• Extranet คือ Network ที่องค์กรใช้ติดต่อกับองค์กรอื่น เป็นอินเตอร์เน็ตระหว่างองค์กร
• E-commerce คือ การขายออนไลน์กับบุคคลทั่วไป , องค์กรขายของระหว่างลูกค้า
• E-government เช่น จ่ายภาษีออนไลน์ การทำพาสปอร์ต การประมูลป้ายทะเบียนทางเว็บไซต์
• Information System Department เป็นหน่วยงานระบบสารสนเทศที่สนับสนุนหน่วยงานต่างๆในองค์กร ไม่ได้เป็นแค่ศูนย์คอมพิวเตอร์อย่างที่หลายคนเข้าใจ
• Web 2.0 คือ WWW version 2 ซึ่งเป็นยุคใหม่ของ world wide web คือ user ไม่ได้บริโภคอย่างเดียว แต่เราสามารเขียน และสร้างเองได้ด้วย
• Virtualization เทคโนโลยีเสมือน เอา server ทุกตัวมาอยู่ใน server เดียวกัน เพื่อเพิ่มความเสถียร และลดต้นทุน
Okay krub
ตอบลบ