การทำ E- business ไม่ได้หมายถึงการขายของอย่างเดียว แต่หมายถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันด้วย
DELL
คือตัวอย่างบริษัทที่ทำธุรกิจแบบ E-business โดยให้ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อคอมพิวเตอร์ทางอินเตอร์เน็ตได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อแค่ที่ร้าน จึงสร้าง www.dell.com ขึ้นมาเพื่อขายคอมพิวเตอร์ โดยให้อิสระแก่ผู้ซื้อสามารถจะเลือกคอมพิวเตอร์ประเภทไหนก็ได้ สามารถเลือกความจุของฮาร์ดดิสก์/แรม สี ขนาดได้ตามที่ต้องการ ซึ่งสร้างความได้เปรียบแก่ Dell อย่างมากในสมัยนั้น แต่ปัจจุบัน Dell ได้ขยายไลน์ขายสินค้าหลายอย่าง โดยใช้ระบบอิเล็คทรอนิคส์ซัพพลายเชนเข้ามาช่วยในบริหารการจัดการสินค้า ซึ่งลูกค้าสามารถจะเช็คได้ว่าตอนนี้สินค้าที่สั่งประกอบเสร็จหรือยัง ถูกส่งไปที่ไหนแล้ว
E- bay
เป็นเว็บไซต์ที่มีการซื้อ-ขายสินค้า ซึ่งเราสามารถเข้าไปประมูลราคาสินค้าได้ ปัจจุบัน e-bay มีลักษณะคล้ายร้านค้าคือขายสินค้าทุกอย่าง
Amazon
คือเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ผู้ก่อตั้ง Amazon คือ Jeff Bezos โดยเริ่มแรกนั้นขายหนังสือเพียงอย่างเดียว แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นขายสินค้าทุกอย่าง ซึ่งการขายสินค้าบนอินเตอร์เน็ตของ Amazon ประสบความสำเร็จเนื่องจากเป็นการใช้กลยุทธ์ Long tail ซึ่งส่วนใหญ่เวลาคนซื้อหนังสือก็จะซื้อแค่หนังสือที่ติดอันดับขายดี เช่น Top 50 ส่วนหนังสืออื่นๆที่มีเป็นแสนเล่มที่ไม่มีคนสนใจนัก ซึ่งร้านหนังสือแบบหน้าร้านทั่วๆไปไม่มีพื้นที่พอที่จะวางขายหนังสือเหล่านั้น แต่อินเตอร์เน็ตสามารถทำให้คนเข้าถึงสินค้าประเภทนี้ได้ ทำให้บริษัทอื่ๆรวมไปถึงคู่แข่งอย่าง Barns&Nobles พยายามที่จะเลียนแบบ Amazon
Click-&-mortar vs Brick-&-mortar organizations
Click-&-mortar คือ E-Commerce ที่มีรูปแบบการที่มีการผสมผสานกันระหว่างหน้าร้าน และเว็บไซต์ซึ่งเป็นอีกช่องทางในการค้าขาย โดยการค้าในรูปแบบนี้จะเป็นผสมผสานเชื่อมต่อการซื้อขายทั้งสองช่องทางด้วยกันได้ เพื่อให้ศักยภาพในการค้าสูงสุดในการรองรับลูกค้าทั้งสองช่องทาง เช่น ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ และไปรับสินค้าที่หน้าร้านได้ เป็นต้น
Brick-&-mortar คือกิจการที่มีหน้าร้าน/ร้านค้าขาย เป็นแบบ "ออฟไลน์ (Off-line)" คือไม่ได้ขายสินค้าหรือบริการผ่านอินเตอร์เนต
E-commerce Business Model
· Affiliate Marketing คือ การโฆษณาบนอินเตอร์เน็ต เช่น การเอา banner ไปแปะบนเว็บไซต์
· Bartering online คือ การแลกเปลี่ยนข้อมูลออนไลน์ เช่น
- www.craigslist.com เป็นเวบไซต์ที่สามารถเข้าไปซื้อของ แลกเปลี่ยนของกันได้
- www.flickr.com เว็บไซต์ที่ให้ทุกคนสามารถเข้ามา upload รูปได้ฟรี ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเล่นกล้อง
· Application Programming Interface (API)
คือ การที่บริษัทลิต service อะไรสักอย่างหรือมีผลิตภัณฑ์ใดก็ตาม ก็ไม่ได้เก็บไว้คนเดียว แต่ share ให้คู่ค้าเอาไปพัฒนาต่อได้ เช่น iPhone
· Social Commerce /Social Shopping
ก่อนที่คนเราจะซื้อของก็มักจะมีการหาข้อมูล/หาคำปรึกษาจากคนอื่น ซึ่งคนส่วนใหญ่มักเชื่อเพื่อนมากที่สุด ดังนั้น facebook จึงกลายเป็นคู่แข่งที่สำคัญของ google เนื่องจากเป็น Social Network ที่เพื่อนสามารถ share ข้อมูลกันได้
· E-Catalog การทำแคตตาล็อคออนไลน์ โดยลูกค้าสามารถเข้ามาเลือกสินค้าได้ เช่น onlinecatalogs.com
· E-Auctions คือการประมูลออนไลน์ โดยนอกจากระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภคแล้ว ยังมีบริษัทเอาสินค้าที่ตกรุ่นมาขายด้วย เช่น ebay , swoopo
· Bartering & Negotiations
เป็นเว็บไซต์ยื่นหมูยื่นแมวซึ่งก็คือ เว็บไซต์ที่สามารถนำของมาแลกเปลี่ยนกันได้นั่นเอง เช่น swap.com สามารถนำหนังสือ/เกมส์/ซีดี มาแลกเปลี่ยนกันได้ , TARADb2b.com เป็นเวปไซต์ขายของของเมืองไทย มีสินค้ามากมาย
· Electronis Mall
เช่น weloveshopping.com โดยการให้ร้านค้าต่างๆ เอาของมาขายฝากได้ ทำให้ผู้บริโภครู้สึกเหมือนกำลังช้อปปิ้งอยู่ในศูนย์การค้า , Alibaba.com ซึ่งมีสินค้าทุกอย่างจากทั่วโลก
· Travel Service
ใช้สำหรับธุรกิจท่องเที่ยว เช่น Hotwire.com, travelocity โดยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าไปเลือกแพ็คเกจท่องเที่ยวได้ ว่าจะเลือกที่พักที่ไหน เลือกบินกับสายการบินอะไร และเลือกสถานที่ท่องเที่ยวใด
อย่างไรก็ตามการทำพาณิชย์อิเลคทรอนิกส์ ไม่จำเป็นว่าจะเพื่อทางธุรกิจอย่างเดียว แต่มีบริการระหว่างรัฐบาลกับประชาชนด้วย เช่น การจ่ายภาษี online / การประมูลทะเบียนรถออนไลน์
ประโยชน์ของ e-commerce
- สำหรับบริษัท ทำให้การติดต่อกับลูกค้าสะดวกมากขึ้น และเพิ่มรายได้ให้แก่องค์กร เช่น สามารถขายได้ทั่วโลก
- สำหรับสังคม ทำให้คนได้เจอกันมากขึ้น
- สำหรับสังคม ทำให้คนได้เจอกันมากขึ้น
ข้อจำกัดของ e-commerce
แต่ละคน หรือคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องอาจมีเทคโนโลยีที่ไม่เหมือนกัน เช่น การซื้อออนไลน์ browser ที่ supportอาจไม่เหมือนกัน และอาจมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย เช่น ข้อมูลบัตรเครดิต อาจโดน hack ข้อมูลได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น